10 ฟีเจอร์เทพบน Google drive
10 ฟีเจอร์เทพบน Google drive
สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ PGSLOT วันนี้แอดมินจะมานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ ฟีเจอร์ ของ Google drive กันนะคะ สำหรับน้องๆ นักเรียน นักศึกษา หรือ ใครที่ทำงานแล้ว ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ได้เช่นเดียวกันค่ะ จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
รู้จักกับ Google drive

Google Drive เป็นบริการหนึ่งของกูเกิล ที่หลายคนใช้สำหรับฝากไฟล์ภาพ ไฟล์เอกสาร และใช้สำหรับแชร์ไฟล์ไปให้คนอื่น ซึ่งสิ่งที่เจ๋งของมันก็คือเราสามารถเปิดไฟล์งานได้จากทุกที่ขอเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตเป็นพอ
แต่นอกจากฝากไฟล์และแชร์ไฟล์แล้ว กูเกิลไดรฟ์ยังสามารถทำอีกหลายสิ่งที่เราไม่คาดคิด อย่างการพิมพ์งานด้วยเสียงแบบไม่ต้องเปลืองแรงนิ้ว EPICWIN การแปลงไฟล์ภาพเอกสารให้กลายเป็นตัวอักษร รวมไปถึงการใช้งานแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย แต่จะทำยังไงนั้นลองมาอ่านกันดู เรารวมวิธีมาให้ทั้งหมดแล้ว!
GoogleDrive อาจเป็นเครื่องมือที่หลายคนใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ความจริงคือ GoogleDrive สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการทำงานอื่นได้หลากหลายผ่านบริการมากมาย ต่อไปนี้คือวิธีการใช้ประโยชน์สูงสุดจาก GoogleDrive ที่มืออาชีพทุกคนไม่ควรมองข้าม
หนึ่งในการใช้ประโยชน์สูงสุดจาก GoogleDrive คือการเป็นสะพานประสานงานกับทีมที่ทำงานจากระยะไกล GoogleDrive ช่วยลดปัญหาเรื่องการส่งข้อมูลและการสื่อสารที่ยุ่งยากได้เพราะผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ให้ใครก็ได้จากทุกที่ทุกเวลา
Google ยังเตรียมเครื่องมือที่จะช่วยเอาชนะอุปสรรคต่างๆด้วย Google suite ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้แม้ไม่ได้อยู่ใกล้กัน
นอกจาก GoogleDrive ฟีเจอร์ที่ระบุในคู่มือฉบับเต็มด้านล่างยังมีเทคนิกการใช้งาน Google Docs, Google Sheets, Google Slides และโปรแกรมเสริมอื่นที่อาจเป็นประโยชน์กับคนทำงานทุกคน
10 ฟีเจอร์เทพบน GoogleDrive

1. สั่งพิมพ์งานด้วยเสียง
สำหรับใครที่อยากจะพิมพ์งานด้วยเสียงแทนการใช้นิ้วมือสัมผัสแป้นพิมพ์ ทาง Google Drive ก็มีฟีเจอร์ให้เราสามารถใช้งานได้
ทำได้ง่ายๆด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1 เปิดไฟล์ Google doc ขึ้นมา
2 กดแถบเครื่องมือ Tools
3 เลือกเครื่องมือที่ชื่อว่า Voice typing หรือการพิมพ์ด้วยเสียงนั่นเอง
4 แล้วภาษาที่ต้องการให้เครื่องมือพิมพ์ให้ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันจบขั้นตอน
2. แปลงไฟล์ภาพเอกสารเป็นตัวอักษร
หลายครั้งที่เราได้เอกสารบางอย่างมาเป็นไฟล์ภาพ ทำให้ต้องเสียเวลาพิมพ์ขึ้นมาเป็นไฟล์ตัวอักษรอีกครั้ง Google มีเครื่องมือที่จะทำให้เราช่วยลดเวลาในการพิมพ์ได้นั่นก็คือการแปลงไฟล์ภาพเอกสารให้เป็นตัวอักษรนั่นเอง
วิธีการแปลงไฟล์ภาพเอกสารเป็นตัวอักษร
1 อัพโหลดไฟล์ภาพนั้นเข้าไดรฟ์ของเรา
2 คลิกขวาที่ไฟล์ภาพและเลือก เปิดด้วย Google docs
3 เพียงเท่านี้โปรแกรมก็จะแปลงไฟล์ภาพเอกสารให้กลายเป็นตัวอักษรแล้วจ้า
เพิ่มเติม: จากที่ได้ลองใช้งานมาโปรแกรมแปลงตัวอักษรออกมาได้ถูกต้องแต่ยังไม่สามารถแปลงไฟล์ Excel ที่เป็นตารางซับซ้อนให้ออกมาได้ รวมถึงหากตัวอักษรเป็นรูปแบบที่แปลกเกินไปก็อาจจะแปลงได้ไม่ทั้งหมด
3. เพิ่มฟีเจอร์ให้ GoogleDrive ด้วยปุ่ม Add-Ons
นอกจากการใช้งานอย่างพิมพ์งานธรรมดาแล้ว เรายังสามารถเสริมทักษะให้กับ กูเกิ้ลไดรฟ์ได้ด้วย อย่างเช่นการไฮไลท์ข้อความได้ง่ายๆ การแปลภาษาได้ภายใน GoogleDrive โดยที่ไม่ต้องย้ายโปรแกรม เป็นต้น
วิธีการใช้งานปุ่ม Add-Ons
1 เปิดไฟล์งานขึ้นมา
2 กดปุ่ม Add-Ons บนแถบเครื่องมือ
3 กดปุ่ม get Add On
4 จะมีหน้าต่างโปรแกรมต่างๆขึ้นมาให้เราเลือกเพิ่มเติมในขั้นตอนนี้สามารถลองเลือกแต่ละโปรแกรมเพื่อใช้งานได้เลย
จากที่เราได้ลองใช้งานนั้น เราได้ลองเลือกโปรแกรม Highlight กับโปรแกรมแปลภาษาขึ้นมาก็พบว่าทำให้สะดวกขึ้นในการใช้งาน ไม่ต้องย้ายโปรแกรมจึงทำให้ทำงานได้ไวขึ้น
4. ค้นหาภาพและแทรกรูปได้ง่ายๆ ผ่านปุ่ม Explore(สำรวจ)
ในการพิมพ์งานเอกสารบางครั้งเราต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ กูเกิ้ล หรือบางครั้งก็ต้องการหาภาพเพื่อใช้ประกอบบทความทำให้เราต้องเปิดหน้าต่างขึ้นมาหลายหน้าต่างเพื่อหาข้อมูลเหล่านั้นแต่จริงๆแล้วใน GoogleDrive ไปเองก็มีปุ่ม Explore ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในขั้นตอนนี้
วิธีการใช้งาน
1 กดปุ่ม Explore (สำรวจ)ปุ่มนี้อยู่ที่มุมขวาล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรามีลักษณะเหมือนรูปดาว 4 แฉก
2 เมื่อกดเข้าไปจะมีแถบค้นหาขึ้นมา ให้ลองพิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหา
3 จะมีตัวเลือกให้เราว่าจะเสิร์ชหาเป็นเว็บไซต์, รูปภาพหรือไฟล์งานที่เราเก็บไว้ในไดรฟ์ของเรา
4 ถ้าเราค้นหาไฟล์รูปภาพจะมีปุ่ม insert ให้เราสามารถกดเพื่อแทรกเข้ามาในบทความของเราได้เลยโดยรูปภาพทั้งหมดนั้นจะเป็นรูปภาพฟรีจากเว็บไซต์อย่าง pixabay เป็นต้น
นี่ก็เป็นการประหยัดเวลาทำให้เราไม่ต้องเปิดหน้าต่างขึ้นมาและหน้าต่างเพื่อเสิร์ชหาข้อมูล และยังประหยัดเวลาในการเลือกรูปภาพที่เป็นรูปฟรีอีกด้วย
5. ค้นหาข้อมูลได้อัตโนมัติ ไม่ต้องย้ายหน้าต่าง
นอกจากการค้นหารูปภาพที่โพสไปแล้วในข้อ 5 นั้น ปุ่ม Explore(สำรวจ) ยังช่วยให้เราสามารถแทรกเนื้อหาเว็บไซต์เข้ามาได้อีกด้วย
วิธีการใช้งาน
1 กดปุ่ม Explore (สำรวจ) ขึ้นมา
2 พิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหา
3 โปรแกรมจัดแสดงเว็บไซต์ที่เป็นผลการค้นหาขึ้นมาให้เราเราสามารถคลิกเว็บไซต์และเข้าไปอ่านต่อได้ แต่นอกจากนั้นเครื่องมือหรือยังทำหน้าที่ PG SLOT เป็นการขยายความของคำศัพท์บางคำได้ด้วย ให้คลิกมุมขวาบนของลิงค์เว็บไซต์ที่เขียนว่าอ้างอิงเป็นเชิงอรรถโปรแกรมก็จัดแสดงเครื่องหมายไว้บนขวามือของประโยคนั้นๆและแสดงลิงค์ขยายความที่ด้านล่างของบทความ
6. google ไดรฟ์ให้เราสามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคน
ข้อนี้หลายคนอาจจะรู้แล้วเพราะเป็นประโยชน์เบื้องต้นของการใช้งาน Google Drive แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยทราบมาก่อนเราก็จะมาอธิบายให้ฟังกันในบทความนี้
วิธีการใช้งาน
1 เปิดไฟล์เอกสาร Google doc ขึ้นมา
2 ด้านมุมขวาบนจะมีปุ่มสีน้ำเงินที่เขียนว่าแชร์ ให้คลิกเข้าไปเพื่อเพิ่มอีเมลของคนที่เราต้องการแบ่งปันเอกสาร
3 เพียงเท่านี้เอกสารที่เราแชร์ก็จะไปปรากฏที่ google ไดรฟ์ของเจ้าของอีเมลและทำให้เราสามารถแก้ไขไฟล์งานได้พร้อมกันหลายคน
ปล. สามารถใช้งานข้าม devices ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์และแท็บเล็ต
7. Take notes ได้เหมือนใช้งานโพสต์อิท
เราสามารถ comment งานได้โดยที่ไม่ต้องพิมพ์เข้าไปในไฟล์งานจริง ลักษณะจะเหมือนกับการแปะโพสต์อิทบนกระดาษ A4 นั่นแหละ
วิธีการใช้งาน
1 คลุมข้อความที่ต้องการ Comment
2 จะมีปุ่มที่เป็นรูปบวกขึ้นมาชื่อว่าเพิ่มความคิดเห็น
3 ให้กดเข้าไปแล้วสามารถพิมพ์ข้อความได้เลยจ้า
ซึ่งนอกจากจะสามารถเพิ่มความคิดเห็นได้แล้วโปรแกรมยังจะแสดงให้เรารู้ด้วยว่า comment นั้นมาจากใคร
8. เมื่อพิมพ์งานเสร็จแล้วเราสามารถแชร์เป็นลิงค์เว็บไซต์ให้คนอื่นได้ด้วย
นอกจากการแชร์ไฟล์ไดรฟ์แล้วเรายังสามารถกดเลือก เผยแพร่ทางเว็บให้กับไฟล์งานของเราได้ด้วย สิ่งที่ต่างจากการแชร์ลิงค์ไดรฟ์ธรรมดาก็คือเนื้อหาข้อมูลจะออกมาเป็นรูปแบบเว็บไซต์ที่ผู้อื่นไม่สามารถเข้ามาแก้ไขได้ ก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราว่าต้องการแชร์เนื้อหาให้เป็นแบบไหน
วิธีการใช้งาน
1 กดปุ่ม file เลือก “เผยแพร่ทางเว็บ (published as website)”
2 โปรแกรมจะขึ้น URL ของเว็บไซต์ขึ้นมาให้เราคัดลอกเพื่อส่งต่อให้ผู้อื่นได้เลยจ้า
3 หรือหากต้องการจะฝังไฟล์(embed) ลงไปในเว็บไซต์อีกทีก็สามารถคัดลอกเป็น code เพื่อนำไปใช้ได้เหมือนกัน
9. สามารถดูประวัติการแก้ไขงานย้อนหลังได้
การใช้งาน GoogleDrive โปรแกรมจะคอยบันทึกการแก้ไขชิ้นงานให้เราอย่างอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถกลับมาดูประวัติการแก้ไขได้ โดยสามารถดูการแก้ไขย้อนหลังได้ถึง 100 ครั้งเลย
วิธีการดูประวัติการแก้ไขงาน
1 กดปุ่มไฟล์ (file)
2 กดปุ่มประวัติเวอร์ชัน> ดูประวัติเวอร์ชัน (See revision history)
10. ใช้งาน GoogleDrive แบบออฟไลน์ได้
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะคิดว่า กูเกิ้ล ไดรฟ์มีประโยชน์ก็จริงแต่ว่าถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ตทุกอย่างก็คงทำอะไรไม่ได้ เราเลยจะขอค้านและบอกว่าถึงจะไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ยังสามารถใช้งาน Google Drive ได้
วิธีการใช้งานแบบออฟไลน์
1 เปิดบราวเซอร์ได้ Google Chrome
2 Download Chrome Extension ที่ชื่อว่า Google Docs Offline
เลือกช่องทำเครื่องหมายข้าง “ซิงค์ไฟล์ Google เอกสาร, ชีต, สไลด์ และวาดเขียนกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขแบบออฟไลน์”
>>> PG SLOT เกม สล็อต ออนไลน์ คลิก SLOT <<<
อ่านบทความน่าสนใจ ถัดไป >> Google Translate
อัพเดทล่าสุด : 6 สิงหาคม 2020 10:22 น.