ชิมช้อปใช้ มีข้อดี ข้อเสีย ยังไง?
ชิมช้อปใช้ มีข้อดี ข้อเสีย ยังไง?
สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ วันนี้แอดมินจะมานำเสนอเรื่องราวที่ค่อนข้างมีสาระนิดนึงเนอะ เกี่ยวกับโครงการหนึ่งที่ทางรัฐบาลได้จัดทำขึ้น นั่นก็คือ โครงการ ชิมช้อปใช้ นั่นเอง หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วนะคะ จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ PGSLOT
โครงการ ชิมช้อปใช้ คืออะไร?

“ ชิมช้อปใช้ ” ถือว่าเป็นมาตรการ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” โดยความร่วมมือ ของ กระทรวงการคลัง (Ministry of Finance, MOF) กรมบัญชีกลาง (The Comptroller General’s Department, CGD) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง (Fiscal Policy Office, FPO)
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (Ministry of Tourism and Sports, MOTS) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (Tourism Authority of Thailand, TAT) และ ธนาคารกรุงไทย (KrungThai Bank, KTB) เป็นต้น
โดยมีตัวกลาง คือ แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ซึ่งเป็น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็น “G-Wallet” และเป็นแพลตฟอร์มบริการดิจิตอล (Digital Services Platform) สำหรับชำระเงิน เฉพาะกับ ร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนและใช้บริการแพลตฟอร์ม “ถุงเงิน” เท่านั้น
ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานรัฐบาล (Goverment) และธนาคารกรุงไทย ที่เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินนโยบาย (Policy) เรียกว่า “นโยบายการคลัง” (Fiscal Policy) pg slot
โดย ชิมช้อปใช้ มีรูปแบบนโยบาย 2 อย่าง คือ
1. สิทธิ์รับเงิน 1,000 บาท ต่อคน ต่อหนึ่งสิทธิ์ ถูกเรียกว่า “กระเป๋าที่ 1”
2. สิทธิ์รับ Cashback (เครดิตเงินคืน) 15% กำหนดยอดใช้จ่ายสูงสุด 30,000 บาทต่อคน (หรือคิดเป็น เครดิตเงินคืนสูงสุด 4,500 บาท) โดยเป็นการเติมเงินเข้า G-Wallet ถูกเรียกว่า “กระเป๋าที่ 2”
ซึ่งนอกจากผู้ใช้สิทธิต้องลงทะเบียนเข้าร่วมแล้ว EPICWIN ฝั่งร้านค้าที่ร่วมรายการเองก็ต้องลงทะเบียนเช่นกัน
โดย “จุดประสงค์หลัก” (Objectives) ของโครงการฯ คือ “การกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินลงสู่กิจกรรมเศรษฐกิจในระดับล่าง” ภายในโครงสร้างเศรษฐกิจ (Economic Structure)
กลุ่มเป้าหมายของโครงการ ชิมช้อปใช้

ก่อนที่เราจะเริ่มวิพากษ์นโยบายใดๆ เราต้องเปิดใจให้กว้าง และอธิบายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อชี้ให้เห็นข้อดี ข้อจำกัด เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชน อยู่บนพื้นฐานของความหวังดีต่อผู้อื่นและสังคมเช่นเดียวกัน
ค่อยๆเริ่มวิเคราะห์กันเลย .. โดยเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ ดังนี้
1. เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน
2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. มีโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน (Smartphone) ที่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตและมีอีเมล
จากเงื่อนไขดังกล่าว .. เราจะเริ่มพอเห็นภาพว่า .. โครงการนี้ “รัฐบาล” ต้องการดำเนินการ “ดึงเงิน” ออกจากกระเป๋าใคร เพื่อดึงให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ คำตอบก็ คือ .. คนที่อยู่ใน “วัยเริ่มต้นทำงาน” และ/หรือ “ผู้มีรายได้ปลายกลาง-รายได้สูง” จำนวน 10 ล้านคน
ตัวบ่งขี้ที่สำคัญคือ ข้อที่ 3 คือ มี “สมาร์ทโฟน” อินเทอร์เน็ต และอีเมล ซึ่งหมายถึง ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ระดับหนึ่ง และอยู่ในวัยที่ใช้อินเทอร์เน็ตอีเมลเป็น คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี
และ อีกจุดสังเกตสำคัญ คือ หากโครงการฯ ไปทำการดึงเงินจากเกษตรกร ผู้ประกอบการรายเล็ก รายจิ๋ว ที่ได้รับผลกระทบ และ ไม่มีเงิน หรือไม่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว ตัวโครงการฯ ก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ที่ดี จึงต้องการดึงเงินจากกลุ่ม “มนุษย์เงินเดือน” ที่มี “รายได้ประจำ” ต่างหาก ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากนัก
เพื่อกระจายเงินสู่ระบบเศรษฐกิจระดับล่าง และต้องกล่าวตามตรง อย่างตรงไปตรงมาว่า ผู้คนในเศรษฐกิจระดับล่าง ต้องรอมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ อาทิ โครงการอื่นๆ ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเกษตรกร และ ผู้ประกอบการเล็กๆต่อไป

ข้อดีของโครงการ
- เปลี่ยนพฤติกรรมของคนให้เข้าสู่ระบบนิเวศ สำหรับโครงการ ชิมช้อปใช้ จะใช้เป็ฯ“การซื้อ-ขายและชำระเงินออนไลน์” (e-Commerce) ผ่าน “กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์” (e-Wallet) ด้วยโมเดล Freemium และ Caskback นี้ เป็นวิธีเดียวกับ แพลตฟอร์มใหญ่ๆต่างๆ ใช้ดึง “ผู้ใช้งานใหม่” (New Entry Users) เข้าสู่แพลตฟอร์ม
อาทิ การใช้ โค้ดส่วนลด (Discount Coupon) หรือ โปรโมชั่น จัดส่งฟรี ที่ทำให้ผู้คนหันมาใช้บริการของผู้ให้บริการนั้นๆ ล้นหลาม ซึ่งถือเป็น “กิจกรรมใช้จ่ายเพื่อการลงทุน” (Capital Expenditures) เพื่อเปลี่ยน “พฤติกรรมผู้บริโภค” (Customer Bahavior) ให้หันมาใช้บริการของตน ..
ในทางเดียวกัน ในส่วนมาตรการของรัฐ เป็นการใช้เม็ดเงิน 1,000 บาท และ Cashback 15% เพื่อดึงทั้ง “ผู้ซื้อ” และ ผู้ขาย หรือ “ผู้ประกอบการ” (Businesses) ให้สามารถใช้แพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์แบบนี้ได้มากขึ้น
เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ “สังคมไร้เงินสด” (Cashless Society) เพื่อประโยชน์ในการวางรากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ต่อไป
- รับ Cashback 15% อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น คือ โครงการฯ ต้องการเจาะกลุ่ม คนมีรายได้ปานกลาง-รายได้สูง ซึ่งต้องอธิบายก่อนว่า “ประสิทธิภาพของ เครดิตเงินคืน” คือ ควรจะจ่ายเต็มวงเงิน เพื่อให้ได้รับ “เงินคืน” อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ซึ่งการจ่ายเต็มจำนวน เท่ากับ 30,000 บาท ได้รับเงินคืนสูงสุด 4,500 บาท นั่นเอง ซึ่งหากคุณจ่ายทีละ 1,000 2,000 จนครบ จะไม่มีประสิทธิภาพเลย
- ควรที่จะ ดึงเงินของผู้ที่มีรายได้ปานปลาง ถึง ผู้ที่มีรายได้สูง เพราะว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร พวกเขายังคงมี รายได้ประจำกันอยู่ ซึ่งจะต่างจากผู้ที่ทำอาชีพเกษตรกร และ ผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีรายได้ไม่มั่นคงมากเท่าไหร่นัก ดังนั้น การดึงเงินออกจากกลุ่มเป้าหมายนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ PG SLOT
- จำเป็นต้อง สร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และยัง ต้อง อาศัยแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการ รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก การวางฐานระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อการจัดการฐานข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ต่างๆ รวมถึงความปลอดภัยของฐานข้อมูล เป็นประโยชน์กับการทำงานในอนาคต ในการนำข้อมูลตรงนี้ไปวางแผนและนโยบายทางด้านเศรษฐกิจต่อไป
ข้อเสียของโครงการ
- กลุ่มเป้าหมาย อาจจะ ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ มากเพียงพอ กล่าวคือ มีโอกาสสูงที่ กลุ่มคนที่มีกำลังซื้ออยู่ในระดับปานกลาง หรือ ระดับสูง ไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ เพราะ อาจจะมองว่า ให้สิทธิ์กับคนอื่นแทนตน หรือมองว่า สิทธิ์ไม่จูงใจมากพอ หรือ ไม่ได้เข้าร่วมด้วยวัตถุประสงค์อื่นๆ เป็นต้น เพราะอย่าลืมว่า มีจำนวนสิทธิ์จำกัดเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น จากประชากรทั้งสิ้นประมาณ 66 ล้านคน
- จำนวนเม็ดเงินจากกระเป๋าที่ 2 ของประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่โครงการฯต้องการ หากทุกคนไม่ใช้จ่ายออกมาเลย ธุรกิจ ห้างร้าน บริษัท จะดำเนินธุรกิจไปข้างหน้าไปได้อย่างไร เศรษฐกิจจะเติบโตได้อย่างไร ซึ่งการประกันความเสี่ยงของทุกท่าน จริงๆควรอยู่ในรูปของการลงทุนมากกว่า เก็บไว้เฉยๆไม่นำออกมาใช้จ่าย และในทางกลับกัน แต่ไม่ควรเป็นการใช้จ่ายที่มากเกินตัวของบุคคลในเช่นกัน
- ร้านค้ารายย่อยบางร้านตั้งอยู่ไกลจาก แหล่งชุมชน หรือ แหล่งท่องเที่ยว เมื่อสถานที่ตั้งอยู่ห่างไกลมากๆ จะส่งผลทำให้ เกิดการใช้จ่ายไม่ตรงวัตถุประสงค์ของโครงการ และทำให้เกิดการใช้จ่ายในจุด หรือ ร้านค้าที่สะดวกกว่า
ก็จะส่งผลต่อการกระจายรายได้ลงสู่ร้านเล็กๆ พิจารณาจาก บริการรับจ้างซื้อสินค้าจัดส่งถึงที่ (Delivery Services) ที่ค่อยๆเติบโตขึ้น ซึ่งบ่งบอกรูปแบบลักษณะพฤติกรรมผู้คน (Behaviors) ได้ส่วนหนึ่ง
- การหมุนเวียนเงินระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันทำได้ยากขึ้น ต้องอธิบายก่อนว่า มีหลายปัจจัยที่จะทำให้การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจไม่ได้จำนวนรอบที่ควรจะเป็นตามทฤษฏี ดังเช่นที่อธิบายไปข้างต้นแล้ว ในเรื่องสินค้าและบริการในปัจจุบัน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
>>>> PG SLOT เกม สล็อต ออนไลน์ คลิก SLOT <<<<
อ่านบทความน่าสนใจ ถัดไป >> hotmail มีใครแอบใช้ของเราไหม?
อัพเดทล่าสุด : 26 เมษายน 2021 9:00 น.